Register LOGIN Forget password ?
Webboard :: Do It Your Self :: 00000805
PAGE 1 OF 2
GO TO PAGE
การดูแลรถเบื้องต้น.......กรองอากาศ......น้ำมันเครื่อง......หม้อน้ำ
ในเรื่องของการดูแลในขั้นต้นนี้จะขอกล่าวเฉพาะส่วนของการบำรุงรักษาตามอายุขัยเท่านั้น.....ในส่วนของการซ่อมแซมในกรณีที่เกิดความเสียหายหรือความผิดปกติใดๆ คงต้องยกให้เป็นหน้าที่ของช่างผู้ชำนาญโดยตรงจะดีกว่าครับ



CBR 1100 XX (98) .............นายแบบเจ้าประจำครับ



ปล : สำหรับท่านที่ไม่ได้ใช้รุ่นนี้ผมคิดว่าขั้นตอนส่วนใหญ่ก็น่าจะใกล้เคียงกันครับ







Share |
W@T_1100XXX    time: 2006-06-07 01:08:47   แจ้งลบกระทู้

ความเห็นที่ #1


เริ่มกันที่ระบบกรองอากาศครับ..........ถอดเบาะนั่งออก......เมื่อถอดเบาะนั่งออกแล้วที่ถังน้ำมันจะเห็นน๊อตสองตัว จัดการถอดออกด้วยประแจเบอร์ 12 ........ทีนี้ก็เผยอถังขึ้นจะมองเห็นท่อทางเดินน้ำมันที่ออกจากก๊อกใต้ถัง จัดการถอดออกทั้งสองเส้น..........อ้อ แล้วก็มีสายไฟชุดนึงที่ออกจากใต้ถัง ก็ต้องถอดออกด้วย



ปล : หากรู้ล่วงหน้าว่าจะทำการยกถังน้ำมันออกก็อย่าเพิ่งเติมน้ำมันล่ะ.......เต็มถึงนี่หนักเอาการทีเดียว
W@T_1100XXX  2006-06-06 09:57:50      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #2
เมื่อยกถังออกแล้วก็จะเห็น air box ขนาดมหึมา ใช้ไขควงแฉกถอดน๊อตออกทั้งสิบเอ็ดตัว


ปล : ขั้นตอนนี้ถ้ามีไขควงไฟฟ้าเป็นตัวช่วยล่ะก็ ชีวิตจะง่ายขึ้นอีกเยอะเชียวล่ะ
W@T_1100XXX  2006-06-06 11:43:09      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #3
เปิดฝา air box ออก.......นำแผ่นกรองออกมาตรวจสภาพ........ถ้าเป็นกรองของ K&N ให้ใช้น้ำยาของ K&N เท่านั้น.......ล้างตามขั้นตอนนะครับ ห้ามเอาน้ำ เอาลมฉีดทำความสะอาดล่ะ..............เจ๊งสถานเดียว
W@T_1100XXX  2006-06-06 11:43:48      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #4
นอกจากการตรวจสภาพ+ทำความสะอาดแผ่นกรองแล้ว อีกสิ่งที่ควรตรวจสอบก็คือสภาพของตัว air box ครับ......ดูว่ามีคราบน้ำมันรึเปล่า......มีรอยแตกร้าวรึเปล่า.......หากเป็นรุ่นหัวฉีดที่เป็น air duct แบบ direct อาจพบแมลงปอหรือเศษก้อนกรวด หากมีก็จัดการทำความสะอาดซะให้เรี่ยมไปเลย
W@T_1100XXX  2006-06-06 10:11:29      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #5

ระบบกรองอากาศจบไป........มาถึงเรื่องของน้ำมันเครื่องกันบ้างครับ


การเปลี่ยนถ่ายขั้นแรก........เปิดฝาเติมน้ำมันเครื่องออก




ปล : ในขั้นตอนการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องนี้หากรถจอดมาข้ามคืน แนะนำให้สตาร์ทเครื่องทิ้งไว้ประมาณสิบนาทีจากนั้นค่อยทำการเปลี่ยนถ่ายครับ
W@T_1100XXX  2006-06-06 10:19:03      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #6
ขั้นต่อมาก็หาถาดหรือภาชนะอะไรก็ได้ที่มีปริมาตรประมาณห้าลิตรมารองข้างใต้แล้วก็ถอดน๊อตระบายน้ำมันเครื่องด้วยประแจเบอร์ 17



หากภาชนะมีปริมาตรที่พอดีเกินไปจะลำบากในการเคลื่อนย้ายครับ.......ใหญ่หน่อยทำงานสะดวกกว่าแยะ
W@T_1100XXX  2006-06-06 10:23:15      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #7


ปล่อยให้น้ำมันเก่าไหลออกให้หมด




ตอนถอดน็อตระวังปะเก็นจะหล่นหายด้วยล่ะ
W@T_1100XXX  2006-06-06 10:26:57      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #8
สำหรับกรองน้ำมันเครื่องรถใหญ่ส่วนมากจะมีขนาดเท่ากับกรองของรถยนต์ในรหัส B6Y1 .......... ตรงนี้ใครจะเลือกใช้กรองแท้สำหรับมอไซด์โดยเฉพาะหรือว่าจะใช้กรองเทียบของรถยนต์อันนี้แล้วแต่ศรัทธา+กำลังทรัพย์ขอรับ.........โน คอมเมนต์




ในภาพ : อุปกรณ์การถอดกรองมีหลายแบบ ผมเลือกใช้แบบฝาครอบนี้เพราะใช้งานง่ายกว่าแบบสายรัด และตัวกรองไม่บุบแบบใช้โซ่รัดครับ
W@T_1100XXX  2006-06-06 10:33:03      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #9
ถอดกรองเก่าออกแล้วใส่กรองใหม่เข้าประจำการณ์แทน..............ปกติผมจะเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องทุกๆ 3000-3500 กิโลเมตร (ขึ้นอยู่กันการใช้งาน) และทุกครั้งที่เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องก็จะทำการเปลี่ยนกรองด้วยทุกครั้ง
W@T_1100XXX  2006-06-06 10:35:31      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #10
เมื่อเปลี่ยนกรองใหม่เรียบร้อยพร้อมขันน็อตรูระบายน้ำมันเครื่องดีแล้วก็มาถึงขั้นตอนการเติมน้ำมันเครื่องกันล่ะ........ขั้นตอนนี้บ้านใครมีกรวยก็สบายไปแต่ถ้าบ้านใครไม่มีก็จัดการเจาะฟลอยที่ปิดกระป๋องน้ำมันเครื่องให้เปิดเป็นสองรูดังภาพจะทำให้การเทน้ำมันเครื่องง่ายขึ้นเยอะ



ตรงนี้หลายท่านอาจคิดว่าทำไมต้องมาบอกนะ กะอีแค่การใส่น้ำมันเครื่อง..........อันนี้ขอยกตัวอย่างผมเอง.........เพราะว่าบ้านผมมีกรวย ปกติผมก็เปิดฟลอยออกหมดแล้วก็เท......ผมเองไม่เคยรู้ทริ๊กนี้เลย ถ้าให้เทโดยไม่มีกรวยก็จะหกเลอะเทอะ........จนผมมาเห็นคุณ PJ เติมน้ำมันเครื่องให้เจ้าเหมียว ZX12 เมื่อตอนไปมีทติ้งที่กาญจนบุรีกับสตรอมเมื่อสองปีก่อน ผมเห็นถึงกับร้อง.....อ้อ!!!!! มันเป็นยังงี้นี่เอง


W@T_1100XXX  2006-06-06 11:46:40      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #11


เสร็จไปแล้วสองเรื่อง.........เรื่องสุดท้ายกับการเปลี่ยนถ่ายน้ำในระบบหล่อเย็น



ขั้นตอนนี้ควรทำอย่างน้อยปีละหนึ่งครั้งครับ เตรียมให้พร้อมทั้งน้ำยาล้างหม้อน้ำและน้ำยาหล่อเย็น



W@T_1100XXX  2006-06-06 10:49:46      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #12
อันดับแรก........เปิดฝาหม้อน้ำออก ........ จะให้ปลอดภัยก็หาผ้าหนาๆปิดทับไว้ตอนจะเปิดฝานะครับ
W@T_1100XXX  2006-06-06 10:52:54      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #13



คลายน็อตรูระบายน้ำหล่อเย็น........โดยมากจะใช้น็อตเบอร์ 8 ครับ
W@T_1100XXX  2006-06-06 10:54:42      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #14
ปล่อยน้ำเก่าให้ระบายออกจนหมด.......ปิดน็อตรูระบายน้ำจากนั้นผสมน้ำยาล้างหม้อน้ำลงในหม้อน้ำ ที่ขวดน้ำยาจะมีรายละเอียดการใช้งานทั้งวิธีการและอัตราส่วนที่ใช้


ส่วนใหญ่ก็จะใส่น้ำยาลงไป.....ใส่น้ำตามจนเต็ม......สตาร์ทเครื่องไว้แล้วเช็คระดับน้ำอีกครั้ง ถ้าพร่องก็เติมไปจนกว่าจะเต็ม.........ปิดฝาและปล่อยให้เครื่องยนต์เดินเบาไปอีกซักสิบนาที..........ดับเครื่อง........ถอดน็อตรูระบายออก.......น้ำสีสนิมก็จะพุ่งออกมาให้เห็น
W@T_1100XXX  2006-06-06 11:00:48      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #15


ปิดรูระบายน้ำ........เติมน้ำให้เต็ม........ติดเครื่องไว้ซัก1-2นาทีแล้วถ่ายน้ำออก (ทำซ้ำซัก2รอบหรือจนกว่าน้ำที่ระบายออกมาจะใสสะอาด)




เช่นเดียวกับตอนถ่ายน้ำมันเครื่อง ตอนถอดน็อตระบายน้ำให้ระวังปะเก็นหล่นหายครับ
W@T_1100XXX  2006-06-06 11:30:03      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #16
เมื่อล้างภายในระบบจนสะอาดดีแล้วก็จัดการปิดรูระบายน้ำ......เติมน้ำยาหล่อเย็นตามสัดส่วนที่กำหนด จากนั้นเติมน้ำเปล่าจนเต็ม
W@T_1100XXX  2006-06-06 11:31:41      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #17
ติดเครื่องไว้แล้วเดินคันเร่งเบาๆ........น้ำในหม้อน้ำจะค่อยๆพร่องลง........เติมน้ำไปเรื่อยๆจนระดับน้ำคงที่........ปิดฝาหม้อน้ำ จากนั้นก็ฉีดล้างทำความสะอาดเป็นอันเสร็จพิธีครับ


W@T_1100XXX  2006-06-06 11:48:55      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #18

ในการเดินทางทุกครั้งไม่ว่าใกล้หรือไกล นอกจากคนพร้อม รถก็ต้องพร้อมด้วยเช่นกัน




หมั่นตรวจสภาพดูแลระบบต่างๆของรถให้สมบูรณ์อยู่เสมอ

เพื่อรถคันเก่งจะอยู่กับคุณไปอีกนานนนนน......นนน






ด้วยความปรารถนาดีจาก

W@T_1100XXX



W@T_1100XXX  2006-06-06 11:49:46      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #19
สุดยอดครับพี่วัต มีประโยชน์ดีจริงๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ข้าน้อยขอคาราว่ะ
thaiguy  2006-06-06 13:40:14      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #20
สุดยอดครับ เฉพาะ อ่านของพี่เนี่ย ประมาณว่าเช็คเองได้เลยน่ะ มีประโยชน์มากๆๆ ขอบคุณ พี่.......
RP  2006-06-06 14:42:58      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #21
ด่วนๆๆครับพี่วัธ คือผมเพิ่งได้นกหัวฉีดมา แล้วรู้สึกว่าร้อนตอนขี่ช้าๆ เข็มความร้อนประมาณ 3/4 ของขีดขาว พัดลมทำงาน ผมขี่แบบช้า 60-80 ในเมืองรถหนาแน่น เดี๋ยวเบรคเดี๋ยวเปลี่ยนเกียร์ขึ้นลง ......ความร้อนแบบนี้ปกติไหมครับ
ผมจึงไปซื้อน้ำยาหม้อน้ำมาใส่ในช่อง coolant ใต้เบาะ ข้างแบตเตอรี่ เพราะคิดว่ามันน่าจะดีขึ้น แต่ก้อเหมือนเดิม ดีแค่ว่าถ้ามีทางโล่งๆสัก 1-2 กิโล ขี่สัก 110 ความร้อนจะลงมาเหลือครึ่งนึง.....แต่พอเจอการจราจรหนาแน่นก้อเหมือนเดิมอีก.....

คราวนี้จึงลองถ่ายน้ำมันเครื่องดู ใส่ไปราว 3.2 ลิตร(ยังไม่เปลี่ยนไส้กรอง) ความร้อนก้อเหมือนๆเดิมครับ ........
- นกนั้น ใช้น้ำมันเครื่องกี่ลิตรครับ
- ความแบบนั้นผิดปกติไหมครับ....
hide  2006-06-06 15:25:13      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #22


ตอบคุณ hide ครับ.....


ระดับความร้อนที่ขึ้นมาจัดว่าปกติในสภาพการจราจรที่หนาแน่น........อย่างไรก็ดีควรหาเวลาจัดการเปลี่ยนถ่ายของเหลวทั้งหมด (อันนี้สำคัญนะโดยเฉพาะในกรณีที่ไม่แน่ใจว่าเจ้าของคนเก่าดูแลรถมาดีขนาดไหน)


ระบบหล่อเย็นก็ทำตามขั้นตอนที่โพสไว้.......ที่สำคัญคือไอ้เจ้าน้ำยา coolant นี่ให้ใส่ลงในหม้อน้ำโดยตรงครับ.......หม้อพักน้ำสำรองชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าใช้สำรองเท่านั้น ในการทำงานปกติของระบบหล่อเย็นมิได้ดึงน้ำในส่วนนี้เข้าไปใช้งานแต่อย่างใด

น้ำมันเครื่องของเจ้านกดำมีพิกัดอยู่ที่ 3.9 ลิตรในกรณีที่เปลี่ยนกรองใหม่.......และ 3.6-3.7 ในกรณีที่ไม่เปลี่ยนกรองครับ




ได้ผลยังไงก็มาอัพเดทข้อมูลด้วยนะครับ



W@T_1100XXX





W@T_1100XXX  2006-06-07 01:07:58      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #23
ละเอียดดีจังเลยครับ
Khemz  2006-06-07 12:36:06      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #24
"""""""""""" คำเดียวคับทั่นพี่ .................. แจ่ม...................""""""""""""

เอ ว่าแต่ไม่อยากได้นายแบบ หัวฉีด มั่งเหรอคับพี่ อิอิ
ZEEZA  2006-06-07 13:51:26      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #25
ขอบคุณจังหูคับพี่วัธ งั้นผมจะรีบทำตามขั้นตอนที่ว่าด่วนครับ ช่องน้ำสำรองนั้น เราต้องผสมน้ำ-น้ำยาตามสัดส่วนใส่ไปด้วยไช่ไหมครับ
เดี๋ยวจะทำตามนั้นแล้วจะรีบมารายงานผลครับ
hide  2006-06-07 14:44:09      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #26


ที่ถังพักน้ำสำรองนั้นไม่จำเป็นต้องผสมน้ำยาหล่อเย็นก็ได้ครับ




ปล : สำหรับนกหัวฉีดนั้นจะต่างกันตรงขั้นตอนการถอดถังน้ำมัน ซึ่งตรงนี้ผมเองยังไม่มีประสพการณ์ครับ..............อิ อิ............แต่ถ้าอีตา ZEEZA จะยอมเอารถมาทิ้งไว้เป็นหนูทดลองก็ยินดีครับ................อยากลองมานานแระว่ารถผมถ้าใส่ท่อคู่จะหน้าตาเป็นงัย........ถ้าใส่ชิวส์หน้าปรอทจะสวยมั้ย..........อิ อิ จาด้ายรู้ซ้าทีนิ





W@T_1100XXX
W@T_1100XXX  2006-06-08 00:13:46      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #27
ช่วยดูแล นกรักของผมให้อยู่สภาพแบบนี้ ตลอดไปนะ ครับ คุณ วัต
(เจ้าของเดิม)  2006-06-13 14:34:09      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #28
ผมติดตาม DIY. ของพี่ W@T_1100XXX มาตลอดครับ...เยี่ยมจริงๆ เหมือนจะเป็นเรื่องง่ายๆ แต่ถ้าไม่รู้จริงแล้วทำเอง ก็ปวดหัวดีเหมือนกันครับ แล้วก็เพราะคิดว่ามันง่ายนี่ละครับถึงไม่กล้าจะไปถามใคร เดี๋ยวเค้าจะชมว่า โ_ ^_^ สุดท้ายขอชมเลยว่า รถพี่สวยกิ๊กจริงๆ ...ไม่รู้เมื่อไรจะมาวาสนากับเค้ามั่ง ได้แต่ขับ 400 คันเล็กๆนี่ละเรา
Nun  2006-06-14 11:05:37      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #29
update !!!


พี่วัตครับ ได้ล้างหม้อน้ำแล้วครับ ตอนที่ใส่น้ำยาล้าง(Kashine) ข้างกระป๋อง บอกให้ติดเครื่อง 5 นาที แต่ผมติดไปราว 8-9 นาที เข็มความร้อนขึ้นมาราวๆครึ่งนึง แต่น้ำเขียวดันไหลออกมาทางท่อพักน้ำสำรอง มาพอสมควร งงๆครับ ความร้อนก้อไม่มากแต่ทำไม่มันดันออกมา เลยรีบถ่ายออก(ร้อนมากต้มมาม่าได้ 2 ถ้วย)
จากนั้นใช้น้ำดื่มเติมเพื่อล้างไป 3 รอบ จากนั้นจึงเติมน้ำยาหล่อเย็นของ sped summer coolant ...จะทดสอบแต่ฝนดันตกหนัก เพิ่งล้างไม่อยากให้เลอะ

รุ่งขึ้นหลังเลิกงานลองขี่เข้าเมืองดู รถวิ่งช้ามาก 30-40 เท่านั้น แถมแซงไม่ได้ ถนนแคบ รถยนต์ขับช้าขวางทาง..... เข็มขึ้นมาครึ่งนึง ช่วงนั้นใช้เวลาราว 10 นาทีได้
ขี่สักพักถนนโล่งๆ อัดเล่นๆสั้น เกียร์ 1-2 แล้วได้เพิ่มความเร็วมาอีกนิด กลับมาถึงที่รถติดๆอีก คราวขี่ติดไฟแดง 2 ที่ๆละ 1 นาที แต่ก้อยังขี่ได้ 30-40 เหมือนเดิม เข็มเริ่มมาที่ 3/4 (อีกแล้ว) ................

คราวนี้อยากทราบว่าในช่วงเวลาแค่ 15-20 นาทีขี่ช้าในเมือง เข็ม3/4 มันปกติไหมครับ ที่พี่เคยบอกว่า 3/4 นั้นปกติ แต่ผมว่ามันเร็วจัง นกของพี่ร้อนเร็วไหมครับ





hide  2006-06-15 13:09:52      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #30
ลองเช็คดูแผงหม้อน้ำ/รังผึ้งนะครับ
....  2006-06-17 10:37:52      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #31
ก่อนเดินทางไกล/เดือนละครั้ง :: ลมยาง น้ำกลั่น น้ำมันเครื่อง น้ำหม้อน้ำ หลอดไฟ ไส้กรอง กล่องเครื่องมือ
........  2006-06-17 10:40:46      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #32


นกผมถูกกันท่าให้ห่างจากการจราจรของกทม.ครับ.........ตั้งแต่ใช้รถมาเคยมุดเข้ากทม.เต็มๆแค่ครั้งเดียว จากนั้นก้ไม่คิดจะทรมานมันอีกแล้วล่ะ ........ตอนนั้นจำไม่ได้เหมือนกันครับว่าความร้อนขึ้นไปถึงขีดไหนรู้แต่ว่าร้อนหน้าขามั่กๆเลย



W@T_1100XXX



W@T_1100XXX  2006-06-18 03:24:33      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #33
คุณ hide คือความร้อนแบบที่คนเอยมามันปกติทุกอย่าง ไม่ว่าจะช้าแค่ไหน ก็ประมาณเนี้ยครับ แต่ที่ผิดปกติคือน้ำล้นออกมา แต่ว่ามันล้นมาแบบไหน ถ้าล้นแบบว่าเติมน้ำในหม้อพักแบบเต็มสุดๆก็หน้าจะปกติ แต่ถ้ามันล้นแล้วเดือดในหม้อพักเลยพอดับเครื่องแล้วยังเดือดและล้นมาอีก อันนี้ผมว่าผิดปกตินะครับ ลองเช็คหม้อน้ำดูก่อนครับว่าใบระบายความร้อนมันล้มเยอะหรือป่าว
เพราะรถผมขี่ในเมืองค่อนข้างบ่อยครับ ร้อนก็ปกติ แต่น้ำในหม้อพักไม่เคยเดือดเพราะพัดลมมันทำงานครับ.......
นาย..นก.........เขา.........ดำ..........ใหญ่ อิๆๆๆๆๆๆ
Nong_Big bird  2006-06-19 00:44:36      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #34
เดี๋ยวนี้HONDAเขามีน้ำยาหม้อน้ำแบบผสมเสร็จ เพิ่งจะออกมาใหม่ เป็นน้ำยาตัวเดียวที่ทางโรงงานเติมมากับรถCLICK ไม่ต้องเอาน้ำยาแบบเก่ามาผสมกับน้ำประปา เพราะน้ำประปาบ้านเราแต่ละแห่งมีความบริสุทธิ์ต่างกัน บางแห่งอาจจะเป็นด่าง หรือมีตะกรันผสมอยู่ น้ำยาหม้อน้ำตัวใหม่นี้เขาผสมมาให้เสร็จ เปิดกระป๋องแล้วใช้เติมได้ทันที รับประกันโดยHONDAครับ
..  2006-06-19 06:05:38      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #35
-อีกอย่างที่คุณW@T_1100XXX ไม่ได้บอก และเป็นจุดสำคัญที่ข้างกล่องใส้กรองน้ำมันเครื่องจะแนะนำ คือควรนำน้ำมันเครื่องลูบบางๆ ตรงโอริงใส้กรองอันใหม่ก่อนขันเข้ากับเครื่องด้วย และไม่ต้องกันแน่นจนเกินไป (บางครั้งคู่มือเขาแนะนำว่าใช้มือขันจนแน่นสุดๆก็พอ)เนื่องจากว่าเมื่อเครื่องร้อน โอริงขยายตัวก็จะแน่นพอดี
-และอีกข้อก็คือ ไม่ควรให้น้ำมันเครื่องถูกมือโดยไม่จำเป็น (ใส่ถุงมือยาง)เนื่องจากจะมีสารเคมีผสมอยู่ และควรกำจัดน้ำมันเครื่องเก่าอย่างถูกวิธี ห้ามเททิ้งลงท่อระบายน้ำเป็นอันขาด
..  2006-06-19 06:13:15      แจ้งลบความเห็น

PAGE 1 OF 2
GO TO PAGE

Privacy & Policy Statements Advertisement About StormClub.com Contact Stormclub.com