Register LOGIN Forget password ?
Webboard :: Do It Your Self :: 00005322
DIY -> ตรวจสอบระบบชาร์จไฟ
หัวข้อนี้กลายเป็นคำถามยอดฮิตไปแล้ว เจอบ่อยมาก วันนี้เลยขอนำข้อมูลมาลงใน DIY เผื่อข้อมูลนี้จะมีประโยชน์ต่อทุกท่าน

เริ่มจากการเตรียมเครื่องมือที่ต้องใช้
1. มัลติมิเตอร์ (multi meter) ซึ่งสามารถใช้วัดได้ 4 อย่าง คือ
- แรงดันไฟกระแสตรง (VDC),
- แรงดันไฟกระแสสลับ (VAC),
- กระแสไฟตรง (A DC)
- ความต้านทาน (Ohm)

2. ปากคีบ หรือใช้ตัวหนีบผ้าแทน เพื่อความสะดวกไม่ต้องจับสายด้วยมือ เพราะต้องใช้เร่งคันเร่งบางจังหวะ

3. ปากกากับกระดาษ ใช้จดบันทึก

การใช้มิเตอร์ก้เป็นพื้นฐานส่วนหนึ่งที่จำเป็น โดยทั่วไปจะมี 3 ขั้วต่อสายวัดหลักๆ +, - (Ground) และ กระแส (A) ซึ่งมีวิธีวัดอยู่ 2 แบบด้วยกัน
-
ขนาน หรือ วัดคร่อมจุดนั้นๆ
-
อนุกรม หรือนำมิเตอร์ไปต่อคั่น หรือ ระหว่างจุด 2 จุด ยกตัวอย่างง่ายๆ คือ การวัดการไหลของน้ำ

การวัด แรงดันไฟกระแสตรง (VDC), แรงดันไฟกระแสสลับ (VAC) และ ความต้านทาน (Ohm) นั้นใช้วิธีวัดขนาน หรือคร่อมจุดทั้ง 2 จุด โดยทั่วไป ต่อสายมิเตอร์สีดำ เข้าขั้ว – (Ground) และสายสีแดง เข้าขั้ว + (V, Ohm)

การวัด กระแสไฟ (A) ทั้งกระแสตรง A DC และกระสสลับ A AC นั้นใช้วิธีวัดอนุกรม หรือคั่นระหว่างจุดทั้ง 2 จุด ซึ่งการต่อสายมิเตอร์จะต่างกัน ดังนี้ ต่อสายมิเตอร์สีดำ เข้าขั้ว – (Ground) และส่วนสายสีแดง เข้าขั้ว + ที่เขียนไว้ว่ากระแส (A) อาจจะ 10A หรือ 20A หรือ mA

รายละเอียดเพิ่มเติมดูได้ที่ลิงค์
Share |
MR. PJ    time: 2008-02-20 04:11:03   แจ้งลบกระทู้

ความเห็นที่ #1
ให้ทดลองทำตามลำดับ Flow chart นี้ดูนะคับ ไม่น่ายาก แล้วผลเป็นยังไง น่าจะสรุปต้นเหตุได้และสามารถแก้ไขได้ถูกจุด
MR. PJ  2008-02-20 04:13:44      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #2
ขอเวลาจัดการเอกสารสักครู่นะคับ เดี๋ยวมาต่อ
MR. PJ  2008-02-20 04:17:33      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #3
มาต่อกันนะคับ
แปลมาได้แบบนี้นะคับ


ระบบไฟเริ่มแสดงอาการว่ากำลังจะเกิดปัญหา
การตรวจเช็ค

มีอุปกรณ์ accessory ต่างๆ ที่ติดตั้งเพิ่มเติม
กับตัวรถหรือไม่
เช่น ไซเรน กันขโมย ไฟแต่งต่างๆ
 ถ้ามี accessory  ให้ถอดออก

ถ้าไม่มี accessory
ให้ตรวจเช็คกระแสรั่วไหลจากแบตเตอรี่
ดูรายละเอียด A
 มีกระแสรั่วไหล 
- สายไฟในระบบอาจลัดวงจรอยู่
- ขั้วต่อ ปลั๊ก อาจหลุด ไม่แน่น
- แบตเตอรี่เสื่อม
ต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่
ถ้าไม่มีกระแสรั่วไหล
ให้ตรวจวัดแรงดันไฟกระแสตรง VDC
ที่ชาร์จไปที่ขั้วของแบตเตอรี่
ดูรายละเอียด B
 แรงดันไฟชาร์จถูกต้อง 
- แบตเตอรี่เสื่อม
ต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่

ถ้าแรงดันไฟชาร์จไม่ถูกต้อง
ให้ตรวจวัดความต้านทานที่
Alternator/generator coil
ดูรายละเอียด C
 ความต้านทานไม่ถูกต้อง 
- Alternator/generator coil เสีย
- ขดลวดขาด
ต้องเปลี่ยน Alternator/generator coil

ถ้าความต้านทานที่ Alternator/
generator coil ถูกต้อง
ให้ตรวจวัดแรงดันกระแสสลับ VAC
ที่ Alternator/generator coil
ขณะไม่ต่อกับแผ่นชาร์จ (Rectifier/Regulator)
ดูรายละเอียด D
 แรงดันกระแสสลับไม่ถูกต้อง  - Alternator/generator coil เสีย
ต้องเปลี่ยน Alternator/generator coil

ถ้าแรงดันกระแสสลับที่ Alternator/
generator coil ถูกต้อง
ให้ตรวจสอบแผ่นชาร์จ (Rectifier/Regulator)
ดูรายละเอียด E
 แผ่นชาร์จอยู่ในสภาพไม่ดี
อาจมีรอยไหม้ หรือร้อนมาก  - แผ่นชาร์จ (Rectifier/Regulator) เสีย
ต้องเปลี่ยน แผ่นชาร์จ (Rectifier/Regulator)

ถ้าแผ่นชาร์จ (Rectifier/Regulator)อยู่ในสภาพดี
ให้ตรวจสอบสายไฟ ปลั๊กต่างๆ ของระบบชาร์จ
 สายไฟอยู่ในสภาพไม่ดี
อาจมีรอยไหม้ กรอบ เปื่อย
- สายไฟในระบบอาจลัดวงจรอยู่
- ขั้วต่อ ปลั๊ก อาจหลุด ไม่แน่น
ต้องเปลี่ยนสายไฟ ปลั๊กใหม่
ถ้าสายไฟ ปลั๊กต่างๆ ของระบบชาร์จ อยู่ในสภาพดี
แสดงว่าแบตเตอรี่เลื่อม
ต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่

===================
ถ้าหากแรงดันไฟกระแสตรง VDC ที่ชาร์จไปที่ขั้วของแบตเตอรี่ เกิน (over charging) หรือ น้อย (under charging) อาจเกิดขึ้นจาก
- แผ่นชาร์จ (Rectifier/Regulator) เสีย
- แบตเตอรี่เลื่อม
- สายไฟในระบบอาจลัดวงจรอยู่ ขั้วต่อ ปลั๊ก อาจหลุด ไม่แน่น ชำรุด ไหม้
MR. PJ  2008-02-20 06:46:05      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #4
A.การตรวจเช็คกระแสรั่วไหลจากแบตเตอรี่ (Leakage current)
ทดลองดังนี้

A1) ปิดกุญแจไปที่ OFF ห้ามสตาร์ทเครื่องเด็ดขาด
A2) ถอดสายขั้ว + ของรถ ออกจากขั้ว + ของแบตเตอรี่
A3) นำมัลติมิเตอร์มาปรับไว้ที่ย่านวัดกระแส (A) ต่อคั่นระหว่าง ขั้ว + ของแบตเตอรี่ และสายบวกของตัวรถที่ถอดออกมา
A4) ปรับย่านวัดไปที่ค่ากระแสต่ำๆ ประมาณ mA บันทึกค่าที่วัดได้
โดยทั่วไป leakage current ไม่ควรเกิน 3mA ถ้าเกินจากนี้ ถือว่ามีกระแสรั่วไหล ต้องรีบตรวจเช็คและแก้ไขโดยด่วนที่สุด
MR. PJ  2008-02-20 07:10:21      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #5
B. การตรวจเช็ค Rectifier-Regulator หรือที่เรียกๆกันติดปากว่าแผ่นชาร์จนั่นล่ะคับ เป็นตัวแปลงแรงดันกระแสสลับจาก Alternator เป็นกระแสตรง แล้วควบคุมให้แรงดันคงที่ ป้อนเข้าสู่แบตเตอรี่
โดยทั่วไปมีสาย 3 เส้นต่อกับ alternator, 2 เส้นใหญ่เข้าไปแบตและ อีก 1 เส้นใช้ควบคุม อาจจะต่อกับกล่อง ECU หรือระบบ Engine start

ทดลองดังนี้

B1) เอาแอมมิเตอร์ออก ต่อสายขั้ว + ของรถ กลับเข้าขั้ว + ของแบตเตอรี่ ยึดให้แน่น
B2) นำมัลติมิเตอร์มาปรับไว้ที่ย่านวัดแรงดันไฟกระแสตรง VDC ต่อคร่อม ขั้ว + และขั้ว – ของแบตเตอรี่
B3) วัดแรงดันไฟกระแสตรง VDC จากแบตเตอรี่ขณะดับเครื่อง บันทึกค่าที่วัดไว้
B4) สตาร์ทเครื่อง รอบเดินเบา วัดแรงดันไฟกระแสตรง VDC จากแบตเตอรี่ บันทึกค่าที่วัดไว้
B5) เร่งเครื่องขึ้นไปที่ 3000 รอบ บันทึกค่าที่วัดไว้
B6) เร่งเครื่องขึ้นไปที่ 5000 รอบ บันทึกค่าที่วัดไว้

ตรวจสอบค่าที่วัดได้
จาก B3 ค่าที่ได้ควรเกิน 12.5V ขณะที่แบตเต็มๆ
จาก B4 – B6 ค่าที่ได้ควรอยู่ในช่วง 13.5V - 15V
ถ้าต่ำกว่าเรียกว่า under charge ถ้าเกินกว่านี้ก็เรียกว่า over charge
MR. PJ  2008-02-20 07:23:09      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #6
ขอเพิ่มเติมรูปการวัดในข้อ A นะคับ
MR. PJ  2008-02-20 07:33:48      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #7
ส่วนนี่ก็เพิ่มเติมรูปการวัดในข้อ B
MR. PJ  2008-02-20 07:35:48      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #8
ย้อนกลับมาอธิบายการทำงานระบบชาร์จไฟอีกนิด
ประกอบด้วย 3 ส่วนหลักๆ

1. Alternator/generator coil ซึ่งเป็นตัวกำเนิดไฟแรงดันกระแสสลับจากเครื่องยนต์ มี output 3 เส้น โค้ดสายใช้สีเหลืองเหมือนกันทั้ง 3 เส้น

2. Rectifier/Regulator เป็นตัวเรียงกระแสและเปลี่ยนไฟจากกระแสสลับเป็นกระแสตรง และควบคุมแรงดันไฟฟ้าให้พอเหมาะสำหรับแบตเตอรี่

3. Battery เป็นตัวเก็บไฟและแหล่งจากไฟ

ลักษณะวงจรการทำงานดังรูป
MR. PJ  2008-02-20 07:55:52      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #9
มาต่อกัน

C. การตรวจเช็คความต้านทานขดลวด Alternator/generator coil
Alternator/generator coil เป็นตัวกำเนิดไฟแรงดันกระแสสลับจากเครื่องยนต์ มี output 3 เส้น โค้ดสายใช้สีเหลืองเหมือนกันทั้ง 3 เส้น

ทดลองดังนี้
C1) ปิดสวิทต์กุญแจ
C2) ถอดปลั๊ก Alternator/generator coil ออกจากแผ่นชาร์จ
C3) นำมัลติมิเตอร์มาปรับไว้ที่ย่านวัดความต้านทาน Ohm (Ω)
C4) ใช้โอห์มมิเตอร์วัดค่าความต้านทานของแต่ละขดลวด ทั้ง 3 เส้น จะต้องได้ทั้งหมด 3 ค่า ซึ่งค่าที่ได้ของแต่ละขดลวด ควรน้อยๆ โดยทั่วไปอยู่ระหว่าง 0.2 – 0.4 Ω และไม่ควรเกิน 1 Ω
C5) วัดค่าความต้านทานของแต่ละขดลวด ทั้ง 3 เส้น เทียบกับกราวด์ ซึ่งค่าที่ได้ควรมีค่ามากๆ เกินกว่า 1 MΩ หรือวัดไม่ได้เลย (ไม่ลัดวงจรลงกราวด์)

ตรวจสอบค่าที่วัดได้
จาก C4 ถ้าค่าที่ได้เกินกว่าที่กล่าวไว้ ควรเปลี่ยน Alternator/generator ทันที
จาก C5 ถ้าค่าที่ได้น้อย แสดงว่ามีการลัดวงจรลงกราวด์เกิดขึ้น ควรรีบเปลี่ยน Alternator/generator ทันที
MR. PJ  2008-02-20 08:06:42      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #10
D. การตรวจเช็ควัดแรงดันกระแสสลับ VAC ของ Alternator/generator coil
ทดลองดังนี้

D1) นำมัลติมิเตอร์มาปรับไว้ที่ย่านวัดแรงดันกระแสสลับ VAC
D2) เปิดสวิทต์กุญแจ สตาร์ทเครื่อง
D3) เร่งเครื่องขึ้นไปที่ 5000 รอบ วัดค่าแรงดันกระแสสลับ VAC ของแต่ละขดลวด ทั้ง 3 เส้น จะต้องได้ทั้งหมด 3 ค่า บันทึกค่าที่วัดไว้

ตรวจสอบค่าที่วัดได้
จาก D3 ค่าที่ได้ของแต่ละขดลวด ควรมากกว่า 60 VAC ที่รอบเครื่อง 5000 รอบ ถ้าได้ค่าดังกล่าว ถูกต้อง ก็แสดงว่า Alternater ปกติ แต่ถ้าค่าที่วัดได้เกินกว่าที่กล่าวไว้ ควรเปลี่ยน Alternator/generator ทันที
MR. PJ  2008-02-20 08:16:21      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #11
E. การตรวจเช็คแผ่นชาร์จ (Rectifier/Regulator)
ทดลองดังนี้

ขอยกตัวอย่าง Hayabusa นะคับ ใน Service Manual บอกไว้ละเอียดมากเลย
E1) ถอดปลั๊ก Rectifier/Regulator ออกจาก Alternator/generator coil
E2) ให้ใช้มัลติมิเตอร์มาปรับไว้ที่ย่านวัด Diode
E3) วัดค่าแรงดันกระแสตรงVDC ตามจุดที่กำหนดไว้ในตารางดังรูป

ตรวจสอบค่าที่วัดได้ ถ้าไม่ตรงกับผลในตารางดังกล่าว ให้เปลี่ยน แผ่นชาร์จ (Rectifier/Regulator) ทันที
MR. PJ  2008-02-20 08:40:50      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #12
ถึงบรรทัดนี้ น่าจะพอเข้าใจและทำได้บ้างแล้วนะคับ

สรุปง่ายๆ ถ้าหากแรงดันไฟกระแสตรง VDC ที่ชาร์จไปที่ขั้วของแบตเตอรี่ เกิน (over charging) หรือ น้อย (under charging) อาจเกิดขึ้นจากสาเหตุหลักๆดังนี้
- Alternator/Generator coil เสีย
- แผ่นชาร์จ (Rectifier/Regulator) เสีย
- แบตเตอรี่เลื่อม
- สายไฟในระบบอาจลัดวงจรอยู่ ขั้วต่อ ปลั๊ก อาจหลุด ไม่แน่น ชำรุด ไหม้
ถ้าหากพบสายไฟไหม้ หรือปลั๊กละลาย ให้รีบเปลี่ยนสายหรือปลั๊กนั้นๆ ทันที


......PJ
MR. PJ  2008-02-20 08:45:29      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #13
แจ๋วเลยครับท่าจะต้องเสียตังค์กันอีกละ แต่ขอรอวัดไฟของ PJ ก่อนดีก่า...
sammy  2008-02-21 17:16:44      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #14
เป็นปรมาจารย์เรื่องไฟๆ จริงๆ นะเนี่ย...


นับถือครับ...
jackie  2008-02-24 09:52:53      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #15
ขอสอบถามนิดหนึ่งครับ พอดีสงสัยข้อความนี้ครับ

"ตรวจสอบค่าที่วัดได้
จาก D3 ค่าที่ได้ของแต่ละขดลวด ควรมากกว่า 60 VAC ที่รอบเครื่อง 5000 รอบ ถ้าได้ค่าดังกล่าว ถูกต้อง ก็แสดงว่า Alternater ปกติ แต่ถ้าค่าที่วัดได้เกินกว่าที่กล่าวไว้ ควรเปลี่ยน Alternator/generator ทันที"

1. ผมเข้าใจว่า รอบเครื่องที่ 5000 รอบ วัดค่าได้ มากกว่า60 vac แสดงว่าปกติ
ถูกใช่ไหมครับ
2. ถ้าค่าที่มากกว่า 60 vac นั้นแสดงว่า ปกติ แล้วข้อความที่ว่า "แต่ถ้าวัดได้เกินกว่าที่กล่าวไว้ ควรเปลี่ยน" อันนี้หมายความว่า อยากไงครับ ไม่เข้าใจ

ขอบคุณครับ

ponggolden  2011-06-05 14:06:17      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #16
เครื่องชาร์จแบตเตอรี่อัจฉริยะ CTEK จากสวีเดน ดีที่สุด/ถูกที่สุด รับประกันสูงสุด 5 ปี
สินค้าที่มีจำหน่าย รุ่น mxs 5 mxs 10 mxs 25 XT 14000 MXTS 70 50
ใช้งานง่ายชาร์จโดยไม่ต้องยกแบตเตอรี่ออกจากรถ ไม่ต้องถอดขั้ว ตัดไฟอัตโนมัติ
เหมาะสำหรับรถที่จอดทิ้งไว้ไม่ได้ขับ(จอดมากกว่าใช้) ชาร์จแบตเตอรี่รถกับไฟบ้าน หมดปัญหารถสตาร์ทไม่ติด
ใช้ได้ทั้งรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ และยานพาหนะทุกชนิด มีระบบฟื้นฟูแบต จั๊มสตาร์ท ยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่
โดย //
รีวิวการใช้งานเครื่องชาร์จ ctek
สนใจโทร. 0869455977
หรือ Line ID : CTEK.THAI

เครื่องชาร์จแบตเตอรี่อัตโนมัติ CTEK Automatic Charger 8 Step 12V. 5,10,25 Amp. "เต็มตัด ขาดต่อ"
CTEK MXS5 mxs10 mxs25 เครื่องชาร์จไฟแบตเตอรี่สำหรับรถที่คุณรัก และเหมาะอย่างยิ่งสำหรับคุณๆที่มีรถหลายคันและไม่ค่อยได้ใช้จอดไว้นานๆ
แค่มีเจ้า CTEK อุปกรณ์ชาร์จและกระตุ้นแบตฯจากสวีเดนเครื่องนี้ คุณก็จะหมดกังวลเรื่องแบตฯเสื่อมเร็วก่อนกำหนด, ไฟในแบตฯไม่พอสตาร์ทเนื่องจากจอดทิ้งไว้นาน หรือเดินทางต่างจังหวัดหากต้องการฟังเครื่องเสียงจากรถแต่ก็กลัวแบตฯจะหมดสตาร์ทไม่ติด เพียงคุณมีเจ้า CTEK เครื่องนี้ติดตัวไว้ก็ไม่จำเป็นต้องกังวลอีกต่อไปครับ
เจ้า CTEK เครื่องนี้จะทำงานเสมือนว่าคุณได้ใช้รถตามปกติ จะช่วยเซฟแบตเตอรี่และป้องกันแบตฯไม่ให้เสียหรือเสื่อมสภาพก่อนเวลาอันควร โดยไม่ต้องถอดแบตเตอรี่ออกจากรถจึงไม่ทำให้ข้อมูลหน่วยความจำของรถหาย และสัญญาณกันขโมยยังทำงานได้ตามปกติ
สนใจสินค้า คลิ้กไปดูที่ลิ้งค์ข้างล่างเลยครับ

หรือโทร 0869455977
หรือ Line ID : CTEK.THAI
bkk2004  2014-10-04 11:05:04      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #17
+++ เครื่อง ชาร์จ+ฟื้นฟู แบตรถ SUPER CAR แห้ง/น้ำ อัจฉริยะ CTEK ดีสุด/ ประกัน5ปี
+++ เครื่อง ชาร์จ+ฟื้นฟู แบตรถ 4x4 แห้ง/น้ำ อัจฉริยะ CTEK ดีที่สุด/ ประกัน5ปี เหมาะสำหรับรถที่จอดมากกว่าใช้
ขาย จำหน่าย ซื้อ เครื่องชาร์ทแบตเตอรี่รถยนต์อัจฉริยะ CTEK จาก สวีเดน

ขายเครื่องชาร์ทแบตเตอรี่รถยนต์อัจฉริยะ CTEK จาก สวีเดน สำรับรถที่จอดมากกว่าใช้ หมดปัญหาเรื่องรถสตาร์ทไม่ติดด้วยเครื่องชาร์จแบตเตอรี่อัจริยะนำเข้าจากสวีเดน ดีที่สุดในโลก
*** เครื่องชาร์จแบต ctek หาซื้อได้ที่ไหน ครื่องชาร์จ CTEK / เครื่องชาร์จแบต CTEK / เครื่องชาร์จแบตเตอรี่ CTEK จาก สวีเดน ดีที่สุด/ถูกที่สุด
จำหน่ายเครื่องชาร์ตแบตเตอรี่รถยนต์/รถมอเตอร์ไซค์/เรือ/และยานพาหนะทุกชนิด อัจฉริยะ/อัตโนมัติ CTEK MXS 5.0 คุณภาพดีที่สุด จากสวีเดน เราขายถูกที่สุดในไทย
ขายเครื่องชาร์ทแบตเตอรี่รถยนต์อัจฉริยะ CTEK จาก สวีเดน สำรับรถที่จอดมากกว่าใช้ และเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของแบตเตอรรี่รถทุกประเภทให้มีอายุการใช้งานยาวนาน...ยิ่งขึ้น

อัจฉริยะอย่างไร
ชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์ มอเตอร์ไซด์ เรือ รถทุกรุ่นทุกยี่ห้อ ที่ใช้แบตเตอรี่ 12V lead-acid(ตะกั่ว-กรด)ได้ทุกรุ่น ทุกยี่ห้อขนาดเล็ก หนักเพียง 600 กรัม ใช้ได้ทั้งกับแบตเตอรี่แห้งและแบตเตอรี่น้ำ ทุกขนาด ทุกยี่ห้อ รวมทั้งแบตเตอรี่ Gel ( Gel Battery or GelCell ) และ AGM ( AGM Battery )
**มีไฟเตือนเมื่อเสียบผิดขั้ว ปลอดภัยในการใช้**
>> สั่งซื้อได้ที่ >> / / / ctek.thai(แอท)hotmail.com
โทร 0869455977 10.00 - 20.00
หรือ Line ID : CTEK.THAI

การชาร์จด้วยเครื่องชาร์จแบตเตอรี่ทั่วไปทำให้แบตเตอร์รี่บวมเพราะความร้อนในการเร่งอัดกระแสไฟเข้าไปทำให้น้ำกรดเดือด และความร้อนยังทำให้แผ่นตะกั่วขยายตัว มีโอกาสแตะกันทำให้เกิดกระแสไฟลัดวงจร ทำให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพ หรือชำรุดเสียหายได้
เครื่องจะทำการปรับไฟอัตโนมัติ มีการควบคุมกระแสไฟไม่ให้ร้อนเกินไปโดยเริ่มชาร์จด้วยไฟอ่อน ต่อมาเพิ่มกำลังชาร์จเต็มที่แล้วลดกำลังไฟเมื่อชาร์จใกล้เต็ม ระบบอัจฉริยะของเครื่องชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์CTEK ทำให้ชาร์จทิ้งไว้ได้โดยเครื่องจะตัดไฟเองเมื่อแบตฯเต็ม มีไฟแสดงขั้นตอนการทำงานตั้งแต่เริ่มจนกว่าจะชาร์จเต็มทั้งหมด 8 ขั้นตอน
ขั้นตอนที่ 1 เครื่องจะปล่อยกระแสไฟที่ทำให้ซัลเฟตที่ติดกับแผ่นตะกั่วนั้นหลุดออกไปเพื่อเพิ่มความจุของแบตเตอรี่
ขั้นตอนที่ 2 ตรวจสอบสภาพของแบตฯว่ามีสภาพดีพอที่จะชาร์จได้อีกหรือไม่ก่อนที่จะทำการชาร์จ
ขั้นตอนที่ 3 ทำการชาร์จโดยกระแสไฟสูงและชาร์จจนถึง 80% ของความจุ
ขั้นตอนที่ 4 ทำการชาร์จด้วยกระแสไฟต่ำจนเต็ม 100% ของความจุ
ขั้นตอนที่ 5 ตรวจสอบว่าแบตเตอรี่ยังสามารถเก็บกระแสไฟฟ้าได้อีกหรือไม่
ขั้นตอนที่ 6 เป็นการฟื้นฟูสภาพแบตเตอรี่
ขั้นตอนที่ 7 ไฟในแบตเตอรี่จะเต็มแล้วแต่จะมีการรักษาระดับไฟในแบตเตอรี่ไว้ ซึ่งสามารถจะถอดเครื่องออกได้เมื่อมาถึงขั้นตอนนี้ แต่ถ้ายังคงให้ชาร์จต่อไปเครื่องจะคอยควบคุมด้วย
ขั้นตอนที่ 8 เพื่อรักษาไฟในแบตเตอรี่ให้อยู่ในระดับ 95-100% โดยจะทำการชาร์จทันทีที่ไฟในแบตเตรี่ลดลง เพื่อให้แบตเตอรี่มีไฟคงที่อยู่เสมอ
เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องจอดรถทิ้งไว้เป็นเวลานาน
ไม่ต้องกังวลว่าจะสตาร์ทรถไม่ติดเมื่อต้องการใช้รถ
>> สั่งซื้อได้ที่ >> / / / ctek.thai(แอท)hotmail.com
โทร 0869455977 10.00 - 20.00
หรือ Line ID : CTEK.THAI

bkk2004  2015-06-17 10:31:15      แจ้งลบความเห็น


Privacy & Policy Statements Advertisement About StormClub.com Contact Stormclub.com