Register LOGIN Forget password ?
Webboard :: Riding Course :: 00012513
PAGE 1 OF 6
GO TO PAGE
ก้าวใหม่ของวงการขับขี่รถเมืองไทย : GS Enduro Course at Hechlingen
จากครั้งเมื่อที่ทีมครูฝึกของชาวพายุเดินทางไปศึกษาวิชาความรู้เกี่ยวกับทักษะการขับขี่ ณ.ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งนับเป็นตักศิลาแห่งดินแดนตะวันออก เป็นที่กำเนิดของค่ายรถสี่ค่ายหลักที่ครองตลาดในโลกวันนี้ และเราก็ประสบความสำเร็จในจุดมุ่งหมายครั้งนั้นเป็นอย่างดี จนนำไปสู่การพลิกโครงสร้่างการสอนใน Storm Riders Riding Course ของปีนี้ จนกลายเป็นหลักสูตรการสอนที่ "ทันสมัย" ที่สุดในเวลานี้

โดยที่ในวันนี้ กลุ่มผู้ใช้รถในบ้านเรา ต้องยอมรับว่าแยกออกเป็นสามกลุ่มหลัก

กลุ่มแรกคือกลุ่มผู้ใช้รถจากดินแดนตะวันออกซึ่งก็คือรถจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเราดั้นด้นไปร่ำเรียนวิชาความรู้มาจากมืออาชีพตัวจริงท่านหนึ่งของวงการมอเตอร์สปอร์ทของประเทศญี่ปุ่น

กลุ่มที่สอง ที่มีขนาดกลุ่มก้อนผู้ใช้รถจำนวนมากไม่แพ้กลุ่มแรกก็คือกลุ่มรถประเภท Cruiser จากทวีปอเมริกา ก็คือกลุ่มผู้ใช้รถจากค่าย Harley Davidson

และกลุ่มที่สาม คือกลุ่มผู้ใช้รถจากค่ายฝั่งยุโรป โดยมีแบรนด์ BMW เป็นผู้นำในตลาด ซึ่งได้เปรียบค่ายอื่นตรงที่สามารถเปิดตลาดได้ก่อนค่ายอื่นในประเทศไทย ดังนั้นจำนวนผู้ใช้รถสะสมในประเทศจึงอยู่ในลำดับสูงสุด ชนิดที่ค่ายอื่นต้องทำหน้าเหี่ยวๆ เอี้ยวมองด้วยความพยายามในการก้าวตามให้ทัน

หัวใจของรถค่าย BMW ซึ่งมีเอกลักษณ์อันโดดเด่นไม่เหมือนใครในเรื่องเครื่องยนต์ ความนุ่มสบายของระบบช่วงล่าง รวมถึงความปลอดภัยจากระบบเบรคที่จัดอยู่ในลำดับสูงสุดของโลก ซึ่งคงไม่มีที่ไหนจะสามารถถ่ายทอดความรู้ในเรื่องทฤษฎีการขับขี่ การควบคุม รถจากค่ายนี้ได้ดีที่สุดไปกว่าการรับถ่ายทอดตรงจากสำนักผู้ผลิต ซึ่งมีฐานการผลิต และบริษัทแม่ตั้งอยู่ที่เมืองมิวนิค ทางตอนใต้ของประเทศเยอรมัน และนั่นก็คือเป้าหมายของก้าวที่สำคัญอีกก้าวของชาวพายุในครั้งนี้

จากตลอดเวลาหลายปีที่เราสร้าง Storm Riders Riding Course ขึ้นมา และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากทุกกลุ่มผู้ใช้รถในเมืองไทย โดยเฉพาะกลุ่มผู้ใช้รถค่าย BMW ซึ่งมีจำนวนเกือบครึ่งนึงของทุกคอร์สที่เราจัด มันจึงเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้เรากล้าตัดสินใจควักทุนเดินทางไปในครั้งนี้ เพื่อนำความรู้ทุกอย่างที่ "ทันสมัย และปฏิบัติได้จริง" มาถ่ายทอดให้กับนักเรียนในคอร์สของเราทุกคน

เพราะเรายังคงยืนยันแนวความคิดเดิมที่ว่า "ถ้าเราหยุด นั่นเท่ากับเราถอย " ในขณะที่เทคโนโลยียานยนต์มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว เราจึงจำเป็นต้องพัฒนาความรู้ของเราให้ก้าวทันโลกแห่งความเป็นจริง ไม่หยุดนิ่งกับการอวดพองสยองขนในความรู้เก่าๆที่มี...

* ภาพนี้ ถ่ายที่จุดสูงสุดของ Enduro Park : Hechlingen ณ.นาทีสุดท้ายที่เราจบคอร์สแรกครับ

Share |
banana    time: 2010-08-29 17:20:45   แจ้งลบกระทู้

ความเห็นที่ #1
หลังจากกลับญี่ปุ่นได้ไม่กี่วัน
หลังจากเขียนโครงสร้างหลักสูตรใหม่ของ Storm Riders Riding Course สำเร็จ
หลังจากทดลองการสอน การปฏิบัติจากนักเรียนสาธิตในหลักสูตรใหม่จนลงตัว

การเตรียมการสำหรับการเดินทางไปต่อเติมความรู้ที่เยอรมันจึงผุดขึ้นในหัว เพราะเราพบว่าความแตกต่างของรถในตระกูล GS ที่เราสัมผัส มันน่าที่จะมีอะไรลึกซึ้งกว่าที่เรารู้กันอยู่ในปัจจุบัน

เรื่องนี้ได้รับคำปรึกษาที่ดีจาก คุณใหม่ มล. กมลชาติ ประวิตร จาก BMW Thailand ซึ่งเป็นพันธมิตรในการร่วมพัฒนาวงการสองล้อเมืองไทยกับทางชาวพายุ ได้ให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์ และมีแววจะต้องเสียเงินกับการเดินทางครั้งใหม่อย่างแน่นอน

Enduro Park ณ. Hechlingen คือสถานที่ๆดีที่สุดในโลกที่คุณจะสามารถเรียนรู้รถตระกูล GS เพราะเป็นพื้นที่ๆบริษัทแม่ของ BMW ได้สร้างขึ้นมาเพื่อรองรับการพัฒนา-ทดสอบตัวรถ รวมไปถึงเป็นสถานที่มีคอร์สสอนการขับขี่รถในตระกูล GS ได้สมบูรณ์ที่สุดในโลก

อุปสรรคเริ่มโผล่ขึ้นมาให้แก้เป็นระยะๆ เพราะสนามแห่งนี้เปิดให้ทำกิจกรรมแค่ปีละไม่กี่เดือน (หิมะตก) และคิวว่างของกิจกรรมที่ต้องจองกันข้ามปี เพราะนักขับขี่่ BMW จากทั่วโลกต่างก็มุ่งเป้ามายังสถานที่แห่งนี้ รวมไปถึงคอร์สที่สอนเป็นภาษาอังกฤษก็เปิดจำนวนน้อยมากในแต่ละปี

ปัญหาทุกอย่างคลี่คลายโดยการประสานงานจาก BMW Thailand และทางบริษัทแม่ในเยอรมัน เราจึงมีโอกาสได้เดินทางไปเรียนในครั้งนี้แบบคอร์สพิเศษ คืออัด Basic Course แบบเนื้อๆ 2 วันเต็ม แลัวตามติดด้วย Advance Course แบบแน่นๆอีกสองวันเต็ม

ขอขอบคุณ คุณกมลชาติ ประวิตร แห่ง BMW Thailand ที่ช่วยดำเนินการในเรื่องนี้ มา ณ. โอกาสนี้ครับ

* สี่หนุ่มชาวไทย อารมณ์ดีเดินขึ้นเครื่องบิน โดยไม่รู้ว่ามีของยากสุดๆ รออยู่ในอีกสองวันข้างหน้าครับ
banana  2010-08-29 14:10:16      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #2
มัวแต่เอ้อระเหยลอยชายดูสาวสายเดี่ยว เอี้ยวสะบัดจีสตริง จนกลายเป็นผู้โดยสารสี่คนสุดท้ายที่เดินขึ้นเครื่องครับ

พอเดินขึ้นไป ท่านเจ้าพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินก็เดินมากั้น ไอ้เราก็ตกใจ สงสัยว่าขึ้นผิดลำ...

ท่านกวาดต้อนเราทั้งหมดเข้าสู่พื้นที่ Business Class ครับ สาเหตุก็เป็นเพราะมีผู้ใหญ่สองท่านที่รักมอเตอร์ไซค์ และรู้ว่าเราจะไปเสียเหงื่อในการเรียน จึงจัดการอัพเกรดที่นั่งขึ้นไปอยู่ในชั้นนี้ทั้งหมด (ที่นั่ง Business Class ว่างด้วยครับ)

ขอขอบพระคุณพี่ใจดีทั้งสองท่านที่ช่วยเป็นธุระจัดการให้ครับ

* ขึ้นไปแล้วก็ไม่รอช้า....ผึ่งพุงสิครับ
banana  2010-08-29 14:17:03      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #3
สะสมพลังงานด้วยอาหารที่เสิร์ฟทั้งคืน แถมมีเครื่องดื่มที่วางไว้ให้เราเดินไปจัดการด้วยตัวเองแบบไม่อั้น จนเหมือนตื่นมาทานของว่างกลางดึกที่บ้าน
banana  2010-08-29 14:18:39      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #4
สิบเอ็ดชั่วโมงถัดไป เราก็ออกมาสูดอากาศสดชื่นที่มิวนิค เตรียมตัวเดินลงชานชาลารถไฟ เพื่อเข้าไปที่พักในตัวเมือง
banana  2010-08-29 14:19:56      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #5
กระเป๋าขนาดใหญ่ของแต่ละคน เจอบู๊ทเอ็นดูโรเข้าไปก้กินพื้นที่ครึ่งประเป๋าเข้าไปแล้ว ดังนั้นหมวกกันน๊อคและแจ๊คเก็ตขี่รถจึงต้องหอบหิ้วกันบนตัว พะรุงพะรังกันไปหมด
banana  2010-08-29 14:21:25      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #6
เริ่มงัวเงีย เพราะเวลาที่เพิ่มไปห้าชั่วโมงจากเมืองไทย แต่ฟ้ายังใสอยู่
banana  2010-08-29 14:22:18      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #7
การออกนอกบ้านที่ไกลที่สุดในชีวิต ครั้งแรกของท่านกำนัน (ด้วยความอิจฉาของภรรยา)
banana  2010-08-29 14:23:13      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #8
ซักครึ่งชั่วโมง เราก็มาถึงสถานีหลักกลางเมือง เดินลากสัมภาระเข้าไปเช็คอินยังโรงแรมที่จองล่วงหน้ามาไว้ก่อน

แล้วก็ได้เวลาออกเดินชมของขาวๆในเมือง
banana  2010-08-29 14:24:32      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #9
ไปไหนกันไม่ได้ไกล เพราะฝนตกปรอยๆ อากาศเย็นแบบแปลกๆ จึงมาหยุดที่ร้านเคบั๊พหน้าสถานีรถไฟ นั่งดวดเบียร์แลกน้ำลายกัน
banana  2010-08-29 14:25:50      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #10
ท่านโกต่อ วิเวกหายไปในความมืดกับผู้ปกครอง ส่วนเราสามคนก็เดินโซเซกลับโรงแรม
banana  2010-08-29 14:27:02      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #11
หลับไปด้วยสมองมึนๆ จากเวลาที่เปลี่ยน และฤทธิ์เบียร์ตราตาแป๊ะที่ดวดเข้าไป

สะดุ้งตื่นมาตอนตีห้า (เวลาที่นั่น) จึงเดินไปเคาะห้องสองหนุ่ม เพื่อออกไปชมเมืองยามเช้ามืด
banana  2010-08-29 14:29:18      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #12
ยังงัวเงียขี้ตากันอยู่
banana  2010-08-29 14:29:51      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #13
มิวนิคยามเช้าตรู่
banana  2010-08-29 14:30:24      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #14
หนนี้พกกันไปแต่กล้องคอมแพค ภาพไม่สวยก็ทนๆดูกันไปนะครับ
banana  2010-08-29 14:31:34      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #15
ของแปลกตาจากที่เคยเห็นแถวที่ว่าการอำเภอตากฟ้า
banana  2010-08-29 14:32:26      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #16
banana  2010-08-29 14:33:08      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #17
น้ำพุ กับสามหนุ่ม
banana  2010-08-29 14:33:49      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #18
สายๆ ได้เวลานัดหมายกับบริษัทรถเช่า ที่เราทำการจองไปจากเมืองไทย จึงลากกระเป่าไปยังเคาน์เตอร์ของบริษัทรถเช่า ซึ่งตั้งอยู่ที่สถานีรถไฟ
banana  2010-08-29 15:53:59      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #19
ผู้ปกครองของผู้อาวุโสตามมาส่ง
banana  2010-08-29 15:55:17      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #20
พลขับไม้แรก ยกหน้าที่ให้โกต่อ เพราะท่านมาสำรวจถนนเยอรมันก่อนทริปนี้แล้วสองอาทิตย์ อาศัยเสียงป้าฝรั่งมีอายุใน GPS บอกทางไปยังเป้าหมาย ซึ่งห่างจากมิวนิคไปร้อยกว่ากิโล
banana  2010-08-29 15:57:00      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #21
ประมาณเที่ยงนิดๆ เราก็บรรลุยังเป้าหมาย ณ. Land Hotel ซึ่งตั้งอยู่ในตำบล Wiber Hahn ท่านกำนันควักผ้าขาวม้าประจำพระองค์สีฉูดฉาด ขึ้นมาโชว์ความเป็นไทย
banana  2010-08-29 15:59:19      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #22
จัดการกรอกเอกสารยืนยันตัวตน เพื่อรับกุญแจห้องพัก ซึ่งเราจะพำนักที่นี่กันห้าวันเต็มๆ
banana  2010-08-29 16:00:15      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #23
รูปทรงสถาปัตยกรรมเฉพาะถิ่นของตำบลนี้ มีจุดเด่นที่หน้าจั่วของอาคาร ซึ่งนิยมสร้างเป็นรูปทรงคล้ายเชิงเทียนต่างระดับในโบสถ์ ลดหลั่นกันไปในสีสันโทนสบายตา

ถ่ายภาพ ณ.จัตุรัสกลางเมือง
banana  2010-08-29 16:03:17      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #24
ระหว่างรอนัดกับเจ้าหน้าที่ของ BMW ซึ่งจะขับรถมารับเราไปชมสถานที่เรียน ก็เดินออกมาหาของใส่ท้องเป็นมื้อเที่ยง

เห็นแดดร่มสบายตา เลยจัดการสั่งเบียร์มาย้อมขอบตาให้เยิ้มๆ กลางแสงแดดอ่อนๆ
banana  2010-08-29 16:04:49      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #25
ในที่สุด เราก็ได้มาถึงยังสถานที่เคยอยู่ในความฝัน และมันน่าจะอยู่ในฝันของคนที่ขี่รถ BMW ตระกูล GS จากทั่วโลก

BMW Enduro Park แห่งตำบล Hechlingen ครับ
banana  2010-08-29 16:07:19      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #26
พาหนะสุดเลอะของ Enduro Park ก็หนีไม่พ้น SUV สุดหรู(บ้านเรา) ซึ่งเป็นรถสำหรับใช้ในพื้นที่นี้ของเจ้าหน้าที่ประจำสนาม

โปรดสังเกตที่ป้ายทะเบียน ซึ่งไม่สามารถนำออกไปแล่นบนถนนข้างนอกได้
banana  2010-08-29 16:10:07      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #27
มิสเตอร์มาคุส เจ้าหน้าที่ซึ่้งประจำอยู่ที่สำนักงานใหญ่ของ BMW ที่มิวนิค ขี่ R1200GS ประจำตำแหน่งจากออฟฟิศมาร้อยกว่ากิโล เพื่อดูแลเรา เสร็จแล้วก็ขี่รถกลับ !

ยกนิ้วโป้งสองข้างให้กับการดูแลผู้ต่างแดนอย่างเราเลยครับ
banana  2010-08-29 16:13:00      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #28
มิสเตอร์มาคุสขับรถไต่เขาพาเราชมจนทั่วทั้ง Enduro Park ซึ่งมีขนาดใหญ่โตจนน่าตกใจ มีสมรภูมิทุกประเภทให้ทดลองรถอย่างหนำใจ
banana  2010-08-29 16:15:30      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #29
นั่งทำรูปชุดนี้จนเสร็จ เพิ่งสังเกตเห็นว่า ท่านกำนันกิตติช่างสู้กล้องเหลือเกิน

สงสัยตั้งใจให้ภรรยาเห็นหน้า ว่าบินมาเยอรมันจริงๆ ไม่ได้ไปทำสวนผลไม้ที่ไหน
banana  2010-08-29 16:17:17      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #30
พาไปเยี่ยมสถานที่ๆเป็นที่ทานมื้อกลางวันในระหว่างคอร์ส เพราะกรุ๊ปของเราสร้างความตกตะลึงให้เจ้าหน้าที่ของ BMW พอสมควร เนื่องจากเรียนอัดกันสองคอร์สติดในเวลาห้าวัน ซึ่งปกติชาวฝรั่งมักจะเรียนคอร์สแบบวันเดียวกันเสียเป็นส่วนใหญ่

ท่านมาคุสเลยดูแลเราดีเป็นพิเศษ
banana  2010-08-29 16:19:39      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #31
ระหว่างรออาหารค่ำที่ค่อนข้างนาน เลยสั่งน้ำหมักข้าวบูดมาล้างคอจนตาแทบปิด
banana  2010-08-29 16:20:49      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #32
เนื่องจากวันรุ่งขึ้นมีเรียน เราจึงเข้านอนกันตั้งแต่สองทุ่ม จนงัวเงียตื่นมาตั้งแต่ฟ้ายังไม่สาง

คว้ากล้องเดินออกไปชมความงามแสงแรกของวันกัน
banana  2010-08-29 16:22:16      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #33
อีกมุมหนึ่งของเมืองนี้
banana  2010-08-29 16:22:51      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #34
Wiber Hahn เป็นชุมชนเมืองเก่าที่มีแนวกำแพงเมืองโดยรอบ กลางเมืองมีจัตุรัส มีโบสถ์ใหญ่ หอระฆังยักษ์ เหมือนเมืองในนิทานตะวันตกทำนองนั้น (ประเภทรอเวลาอัศวินมาปราบมังกร เพื่อจะได้รางวัลเป็นเจ้าหญิงจากผู้ครองเมือง)

แสงแรกของวันกระทบหอคอยสูงกลางเมืองซึ่งสร้างจากหินก้อนใหญ่ๆ โบกปูนหยาบๆ อายุหลายร้อยปี
banana  2010-08-29 16:26:06      แจ้งลบความเห็น

ความเห็นที่ #35
ใกล้ถึงเวลานัดหมายในการเรียน เราก็อาศัยเสียงป้าแหม่มนำทางไปยังโรงเรียน
banana  2010-08-29 16:27:28      แจ้งลบความเห็น

PAGE 1 OF 6
GO TO PAGE

Privacy & Policy Statements Advertisement About StormClub.com Contact Stormclub.com