Register LOGIN Forget password ?
:: Special Scoops :: BMW R1200 GS Adventure
Guest View : 37,249/ Last update : 2009/04/12
 

Page 1 Page 2   ข้อมูลทางเทคนิค
https://vegus111.com
สัมผัส BMW R1200 GS Adventure #2

(ต่อจากหน้า 1) เติมน้ำมันเสร็จที่แยกแม่มาลัย พร้อมๆกับที่เมฆฝนดำทมึนเคลื่อนตัวเข้ามาปกคลุมทิวเขาที่เรากำลังจะขี่รถไปข้างหน้า
ดูภาพขนาดเต็ม ดูภาพขนาดเต็ม
ช่องตาแมวสำหรับตรวจระดับน้ำมันเครื่อง อยู่ที่ข้างเครื่องยนต์ฝั่งซ้ายด้านล่าง ซึ่งต้องขึ้นขาตั้งคู่เสียก่อนถึงจะมองเห็น ส่วนไส้กรองน้ำมันเครื่องก็ปักลงใต้เครื่องยนต์ ง่ายต่อการเซอร์วิส การ์ดอลูมิเนียมป้องกันเครื่องยนต์ด้านล่าง ซึ่งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานของรถที่ออกแบบมา ไว้ลุยภูมิประเทศในกรณีเจออุปสรรคไม่คาดฝัน
ดูภาพขนาดเต็ม ดูภาพขนาดเต็ม
แป้นวางเท้าผู้ขับขี่ในตัว Adventure จะเป็นแผ่นเหล็กบากร่อง เพื่อป้องกันการลื่นไถลจากพื้นรองเท้าในกรณีที่เหยียบย่ำโคลน รวมไปถึงแป้นเหยียบเบรคที่ออกแบบมา ให้ปับความสูง-ต่ำได้สองระดับ ชุดช๊อคอัพหลังควบคุมการทำงานด้วยไฟฟ้า ปรับตั้งง่ายดายด้วยปลายนิ้วกดที่ปุ่มบนแฮนเดิ้ลบาร์ฝั่งซ้าย อีกหนึ่งเทคโนโลยีที่เป็นจุดเด่นของโมเดลนี้
ดูภาพขนาดเต็ม ดูภาพขนาดเต็ม
ชุดเพลาขับล้อหลังออกแบบได้สวยงาม กระทัดรัดกว่าโมเดลก่อนหน้านี้ แต่ยังมีข้อสงสัยในเรื่องความคงทน เพราะเคยอ่านบททดสอบต่างประเทศ ที่เกิดกรณีรถล้มแล้วชุดเพลาท้ายถึงกับแตก ! ยางหนามดอกใหญ่ Tubeless รัดบนกระทะล้อซี่ลวดปักข้าง ซึ่งมีข้อดีในแง่ของการรับแรงกระแทกสำหรับการขี่โหดๆ แต่มีข้อเสียก็คือ ในเมืองไทยยังไม่มีใครซ่อมหรือตั้งซี่ลวดได้เนี๊ยบพอ ถ้าเพี๊ยนขึ้นมา เตรียมเงินไว้เปลี่ยนทั้งวงสถานเดียว
ชุดเบรคหน้าแบบจานคู่ ใช้คาลิเปอร์สัมปทานค่าย Brembo แต่ประทับตรา BMW พร้อมระบบ ABS. ยืนยันประสิทธิภาพในการเบรคว่าอยู่ในระดับที่ดีที่สุดของโลก
จึงเซ็ทช่วงล่างมาในโหมด Normal แล้วค่อยๆขี่จับอาการของช่วงล่างฝ่าสายฝนเข้าสู่โค้งพับผ้าเพื่อมุ่งหน้าสู่ปาย ตลอดระยะทางที่ขี่ลุยฝยจนถึงปาย ผมเปลี่ยนวิธีการขับขี่ไปใช้แบบผ่อนเร็ว เปิดนุ่ม อาศัยแรงเฉื่อยของรถไหลเข้าโค้งเพื่อไม่ให้กำลังของเครื่องยนต์ไปรบกวนระบบการทำงานของช่วงล่างในจังหวะถอนคันเร่งหรือเปิดคันเร่งเหมือนการขับขี่บนถนนแห้งสนิท บางจังหวะที่ล้อเริ่มมีอาการไถลเสียการยึดเกาะ ประสาทสัมผัสของก้นที่สัมผัสเบาะรถซึ่งเป็นสื่อในการถ่ายทอดอาการของตัวรถสู่การประมวลผลในสมองเริ่มส่งอาการเด่นชัดว่าระบบ Traction Control ซึ่งจะคำนวนการหมุนของล้อหน้า-หลังให้สัมพันธ์กัน เพื่อประสิทธิภาพการยึดเกาะถนน ซึ่งถ้าเกิดอาการ "ฟรีทิ้ง" ของล้อ ระบบอิเลคโทรนิคส์ก็จะคอนโทรลระบบการทำงานของเครื่องยนต์ให้การถ่ายทอดกำลังลงสู่ล้อหลังได้สมดุลย์กับล้อหน้าในเสี้ยววินาที ซึ่งตลอดระยะทางร้อยกว่ากิโลที่เปียกปอนอยู่ในสายฝนพรำๆ บนทางโค้งที่มีคราบโคลนของดินตะกอนที่ไหลลงจากภูเขาตามสายน้ำมาเคลือบผิวถนนไว้ เจ้า R1200GS Adventure สามารถตอบสนองการขับขี่ได้อย่างราบรื่น จนกระทั่งแวะจอดพักที่ดอยกิ่วลม เนื่องจากฟ้าเริ่มเปิด มองข้ามทิวเขาไปด้านอำเภอปางมะผ้าสู่เมืองแม่ฮ่องสอนที่เรากำลังจะไปมีแสงแดดฉาบทับทิวเขา และจากการสอบถามรถยนต์ที่ขับสวนมาจากเส้นทางนั้นได้ความว่า ถนนแห้งสนิทดี ไม่มีฝน ผมจึงปรับโหมดการทำงานของระบบช่วงล่างไปที่ Sport อีกครั้ง พร้อมกับบอกหนูดาวคนซ้อน และเรียกวิทยุไปบอกเสี่ยเม้งบน K1200GTว่า ร้อยกว่ากิโลที่เหลือ ขอสนุกกับทางโค้งที่คุ้นเคยซักหน่อย ไม่ต้องตามแบบติดท้าย

ทางโค้งช่วงเลยจากจุดจอดพักสันดอยกิ่วลม จะเป็นโค้ง V-Shape พับแบบกว้างๆ แต่ดิ่งลงเขาแบบชันๆ จนถึงปางมะผ้า ที่ถนนจะเริ่มหักพับชันขึ้นเขาอีกครั้งจนถึงจุดจอดพักบ้านมูเซอ แล้วจะเปลี่ยนสภาพเป็นโค้งสั้นๆบนสันเขาจนถึงแยกทางเข้าบ้านปางคามก็จะเริ่มแปรสภาพกลับมาเป็นโค้งพับดิ่งลงเขาจนถึงทางแยกเข้าบ้านห้วยผึ้ง หลังจากนั้นก็จะเป็นทางโค้งที่เริ่มง่ายเพราะเป็นถนนวิ่งเลาะนาข้าวและแอ่งภูเขาจนกระทั่งถึงตัวเมืองแม่ฮ่องสอน ซึ่งตลอดทางจากสันดอยกิ่วลม ผมทดลองกลับมาขี่แบบ "เข้าสุด เบรคหนัก เปิดแรง กระแทกให้ลอย" อีกครั้ง จนคนซ้อนเริ่มเอามือแตะไหล่เป็นระยะๆ เพราะเริ่มเกร็งจากความเร็วและแรงเหวี่ยงในการพลิกรถตามความพริ้วของโค้ง ซึ่งประสาทสัมผัสของผมที่ทดลองขี่แบบโหดๆในช่วงนี้ ได้คำตอบจาก R1200GS Adventure เป็นที่น่าพอใจ เพราะมันสามารถตอบสนองการขี่แบบโหดๆ ด้วยระบบเบรคที่ทำงานแม่นยำ ระบบช่วงล่างที่ "เอาอยู่" กับสภาพถนนมีความแตกต่างเรื่องการยึดเกาะในช่วงเวลาติดๆกันได้อย่างน่าทึ่ง ส่งผลให้ผมสามารถ "ไปเร็ว" ได้อย่างที่ใจต้องการ จนกระทั่งเหลือระยะทางอีกประมาณ 10 กิ โลเมตรจะถึงตัวเมืองแม่ฮ่องสอน จึงเหลือบตามองนาฬิกาบนตัวรถ..โอ้ว...แม่เจ้า จากกิ่วลมถึงแม่ฮ่องสอน เคยขี่ D-Tracker สาดสไลด์เข้าโค้งทำสถิติตัวเองไว้ที่ชั่วโมงครึ่ง แต่วันนี้ ใช้เวลาไปแค่ชั่วโมงเดียว

ช่วงพักอยู่ในเมืองแม่ฮ่องสอนสองวัน ก็เกิดความคิดสัปดน โทรไปหากำนันกิตติเจ้าของรถ บอกว่าอยากเอารถไปลองลุยขี้โคลนเละๆดูซักครั้ง " ตามสะดวกครับเพ่...คิดว่ามันเป็นรถของพี่แล้วกัน " และในเมื่อเจ้าของรถส่งสัญญานไฟเขียวปี๋ขนาดนั้น จึงชักชวนเสี่ยเม้ง หนีบนายโต้งที่คว้ากล้องพร้อมถ่ายทำออกไปนอกเมืองเพื่อหาปลักโคลนลุยเล่น โดยช่วงแรกของการลุย ต้องให้เสี่ยเม้งคอยยืนประคองไลน์เผื่อเหตุไม่คาดฝัน แต่พอถึงเวลาเอาเจ้า R1200GS Adventure ลงไปลุยจริงๆ เสี่ยเม้งได้แต่ยืนมองการทำงานของล้อหลังที่ "ตัดต่อ" กำลังให้เห็นอย่างเด่นชัดในขณะที่เจ้า R1200GS Adventure ลงไปจมอยู่ในโคลน โดยในขณะที่ล้อหลังเริ่มมีอาการฟรีทิ้ง เพราะยางกึ่งทางเรียบที่ใส่ติดล้อมาเริ่มหมุนเร็วกว่าล้อหน้า เครื่องยนต์จะตัดและปล่อยการถ่ายทอดกำลังออกมาเป็นจังหวะ สัมพันธ์กับการทำงานของระบบช่วงล่างที่ผมเซ็ทไว้เป็นโหมด Enduro ซึ่งจะยุบให้ร่องยางตะกุยหลังจังหวะ "ตัด"กำลังแค่เสี้ยววินาที สัมพันธ์กับจังหวะที่เครื่องยนต์เริ่ม "ปล่อย" กำลังออกมาอีกครั้งพร้อมๆกับช่วงล่างที่เริ่มยืด สลับกันไปจนกระทั่งตัวรถสามารถผ่านพ้นปลักโคลนขึ้นมาได้ พร้อมๆกับเสียงสูดลมหายใจออกอย่างโล่งอกของทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์

ดูภาพขนาดเต็ม
เส้นทางคราวนี้ เต็มเหนี่ยว กรุงเทพฯ - แม่ฮ่องสอน
ดูภาพขนาดเต็ม
กำนันกิตติเจ้าของม้าศึกลุยเอง ขึ้นเขาลงห้วย
ดูภาพขนาดเต็ม
ทางฝุ่นทางเรียบ ทางลื่นไม่สนจะไปซะอย่าง
ดูภาพขนาดเต็ม
 


วันเดินทางกลับสู่กรุงเทพ ผมเลือกใช้เส้นทางผ่านขุนยวม ตัดเข้าแม่อูคอ แม่แจ่ม ดอยอินทนนท์ ลำพูน และมาแวะพักที่ลำปาง ซึ่งตั้งแต่เช้าของวันที่ออกเดินทางกลับ สายฝนก็เริ่มตั้งเค้ามาดำทมึน แต่เราก็ขี่ผ่านเส้น "ขุนยวมเซอร์กิต" มาได้แบบไม่ยากเย็น เพราะพื้นผิวถนนยังมีความแหลมคมของหิน ส่งผลดีต่อการยึดเกาะของยางในโค้งพับๆ แต่พอจอดรอเลี้ยวซ้ายเข้าแม่อูคอ สายฝนเริ่มตกหนักจนกระทั่งมองไม่เห็นทาง จึงวิทยุไปบอกเสี่ยเม้งว่า ให้ใส่ชุดกันฝนแล้วลุยกันต่อในทันที บนถนนที่ขี่ผ่านจนถึงดอยอินทนนท์จะมีแต่โคลนดิน เศษหินที่ถล่มจากไหล่เขาลงมาบนถนน และมูลวัวแฉะๆ ซึ่งเจ้า R1200GS Adventure สามารถผ่านไปได้อย่างไม่ต้องกังวลอะไร แต่พอถึงช่วงลงจากยอดดอยอินทนนท์างจอมทอง มีขบวนรถตู้นักท่องเที่ยวขับต่อกันเป็นช่วงยาว เสี่ยเม้งเปิดคันเร่ง K1200GT แซงพ้นไปได้สบายๆจากกำลังเครื่องยนต์บล๊อคสี่สูบเรียง แต่กับ R1200GS Adventure ที่เป็นสองสูบนอนยัน อัตราการกระโดดของม้าในเครื่องยนต์ทำได้ช้ากว่าเครื่องยนต์แบบสี่สูบเรียง ในจังหวะที่แซงขบวนรถตู้จนถึงช่วงโค้งซ้ายพับที่จำเป็นต้องเข้าสู่เลนตัวเอง ด้วยความเร็วที่ส่งลงเขามาจนสุดทางตรง จำเป็นต้องไหลให้พ้นหน้ารถตู้เพื่อพับรถเข้าโค้ง วินาทีนั้นเองที่ได้ทดลองระบบเบรค ABS บนถนนเปียกๆ แบบชัดเจนที่สุด เพราะมันถึงจุดวิกฤติที่ต้องเบรคให้สุด พร้อมๆกับการที่ต้องเปลี่ยนไลน์การขี่เพื่อเข้าสู่ช่องทางซ้าย เพื่อป้องกันเหตุการณ์ "บึ้ม" กับรถที่สวนมาในโค้งลับตา ระบบเบรค ABS ของ R1200GS Adventure ทำงานได้แม่นยำมาก จนสามารถนำรถเข้าสู่เลนปกติได้ภายหลังอาการอย่างอกสั่นขวัญแขวน เพราะจังหวะสุดท้ายก่อนจะพับรถ ดันมีแอ่งน้ำบนไลน์ที่เราจะวิ่งผ่านซึ่งมองไม่เห็นล่วงหน้า แต่ทุกอย่างก็ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี กลับมาสู่การขับขี่แบบเรื่อยๆมาเรียงๆ ผ่านลำพูน จนถึงที่พักในเมืองลำปาง

วันสุดท้ายของการเดินทาง ผมหวด R1200GS Adventure ไปส่งหนูดาวที่เมืองเชียงใหม่ แล้วย้อนกลับมาปลุกเสี่ยเม้ง และแพคสัมภาระใส่รถที่ลำปาง แหงนหน้ามองท้องฟ้าที่เริ่มมีเมฆฝนเคลื่อนเข้ามาปกคลุมบดบังแสงอาทิตย์จนบรรยากาศเริ่มขมุกขมัว เสี่ยเม้งวิทยุมาบอกว่าจะขี่นำไลน์เปิดทางให้ท่ามกลางสายฝนที่เริ่มกระหน่ำลงมาอย่างหนัก แต่ K1200GT ของเสี่ยเม้งที่มีนายโต้งซ้อนท้ายกลับเร่งทะยานความเร็วขึ้นไปสู้กับสายฝนบนความเร็วช่วง 150-160 กม./ชม.

ตามปกติที่ผมขี่รถญี่ปุ่นที่ไม่มีระบบช่วงล่างและเบรคแบบนี้ในสภาพอากาศแย่ๆท่ามกลางสายฝนแบบนี้ เคยกลั้นใจแช่ความเร็วได้แค่ไม่เกิน 120 กม./ชม. ตอนครั้งที่หวดนกแดงลงจากแม่ฮ่องสอนกับนายวัธเมื่อสองปีก่อน แต่หนนี้เจ้า R1200GS Adventure สามารถสร้างความมั่นใจในการขับขี่ เพลิดเพลินจนลืมเช็คความเร็วบนเรือนไมล์เพราะสายตาจับจ้องอยู่ที่หน้ารถอย่างเดียว จนบางครั้งที่ความเร็วเริ่มเลย 160 ตัวรถเริ่มมีอาการ "แกว่ง" ในบางจังหวะจากหลุมบนถนนในช่วงกำแพงเพชร จึงต้องวิทยุบอกเสี่ยเม้งให้เบาคันเร่งเพราะเริ่มรู้สึกว่า ใกล้จะถึงลิมิตของความปลอดภัยในการขับขี่ เนื่องจาก R1200GS Adventure ที่มีความสูงกว่า K1200GT ย่อมออกอาการเร็วกว่าตัวรถที่เตี้ยกว่าในสภาพการขับขี่เช่นนี้ เราลากคันเร่งกันยาวรวดเดียวจนมาแวะพักทานมื้อเย็นที่กำแพงเพชรในสภาพเปียกไปหมดทุกส่วนของร่างกาย แล้วจึงฝ่าสายฝนพรำๆกันต่อจนถึงกรุงเทพโดยสวัสดิภาพทั้งสองคัน

Special Scoop ครั้งนี้ จะเน้นหนักไปในแนวการ Review ความรู้สึกจากสัมผัสที่ได้ทดลอง "ขับขี่จริง" บนถนนที่หลากหลายทั้งสภาพภูมิประเทศและอากาศที่ผันแปร มันจึง "ครบ" ที่สุดสำหรับการจำลองการที่เพื่อค้นหาคำตอบกับความประทับใจใน R1200GS Adventure คันนี้ครับ

ถามว่าพอใจไหม ....
ตอบอย่างไม่ต้องอ้อมค้อม จากสไตล์การขับขี่ของตัวผมเองที่ชอบเดินทางท่องเที่ยวบนเส้นทางไกลๆ ไม่ชอบแวะพักบ่อย ไม่ต้องเผื่อใจสำหรับเส้นทางข้างหน้า ผมกล้าตอบว่า R1200GS Adventure โดนใจมาก ตอบสนองการขี่ได้ทุกสไตล์ ตอบโจทย์เส้นทางที่โหดสุดขั้วได้น่าประทับใจ บนความปลอดภัยของโครงสร้าง ความกลมกล่อมของกำลัง และระบบอิเลคโทรนิคส์อันชาญฉลาดบนตัวรถ

ถามว่ามีอะไรเป็นจุดบกพร่องบ้าง....
สิ่งที่ต้องติเป็นอันดับแรก ก็คือมิติของตัวรถที่สูง และ "หนักมาก" ในยามที่บรรทุกเต็มอัตรารวมคนซ้อน ซึ่งในช่วงแรกผมเองก็ยังจับจังหวะไม่ได้ แต่พอผ่านไปซักหนึ่งวัน เริ่มมีความคุ้นเคยกันมากขึ้น จนรู้จังหวะในการบังคับมันให้เป็นไปอย่างใจที่ต้องการ อันดับที่สองที่คนทั่วไปอาจจะต้องติก็คือ "ความแรง" ของเครื่องยนต์ แต่สำหรับผมกลับรู้สึกว่า R1200GS Adventure มีความแรงของเครื่องยนต์ขนาดนี้อยู่ในระดับที่ "กลมกล่อม" แล้วครับ เพราะทางตรงๆ ไกลๆ ใครจะบ้าพลังก็ปล่อยเค้าไปเหอะ เราเน้นขี่เนิบๆ สบายๆ แต่ถ้าถึงทางโค้งเมื่อไหร่ R1200GS Adventure กล้าท้าชนได้ทุกตัว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น คุณต้องปรับเซ็ทช่วงล่างให้พอดี เข้าใจระบบและระยะเบรคของมันให้ถ่องแท้เสียก่อน แล้วมันจะพาคุณทะยานไปได้พลิกพริ้วอย่างที่คนขี่รถสปอร์ทคาดไม่ถึงเลยทีเดียว และถึงวันนี้ผมก็ได้รับคำตอบจากคำถามที่ค้างคาอยู่ในใจมานาน ว่าสายพันธ์นี้ของค่ายใบพัดสีฟ้ามันดีขนาดไหน ทำไมจึงขายดี และเป็นที่ต้องการของนักเดินทางทั่วโลก...

เป็นอีกครั้งนึง ที่ผมขี่รถบนเส้นทางแม่ฮ่องสอนแล้วมีความสุข จากบรรยากาศเย็นๆของสายฝน โดยมี R1200GS Adventure เป็นพาหนะที่อำนวยความสะดวกและความปลอดภัยให้อย่างชนิดที่ "วางใจได้" และถ้าถามว่า ถ้ามีเงินจะซื้อเจ้าตัวนี้มาขี่ไหม...ตอบได้อย่างไม่ต้องลังเลครับว่า...ไม่น่าพลาด ! .....แต่ถ้าเจ้า R1200GS Adventure มีระบบ Cruise Control ติดมาให้ด้วยจากโรงงาน ปีหน้าได้เสียตังค์แน่ครับ (ข้อมูลทางเทคนิค)

ดูภาพขนาดเต็ม ดูภาพขนาดเต็ม ดูภาพขนาดเต็ม
ดูภาพขนาดเต็ม ดูภาพขนาดเต็ม ดูภาพขนาดเต็ม
ดูภาพขนาดเต็ม ดูภาพขนาดเต็ม ดูภาพขนาดเต็ม

 

Page 1 Page 2   ข้อมูลทางเทคนิค
 
Privacy & Policy Statements Advertisement About StormClub.com Contact Stormclub.com